ถือเป็นเกมแนวที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน และมากที่สุดของวงการ Esports เลยก็ว่าได้สำหรับเกมแนว Multiplayer Online Battle Arena (MOBA) หรือเกมแนวออนไลน์ที่แบ่งผู้เล่นเป็นสองฝั่งแล้วทำการต่อสู้กันในสนามเพื่อเอาชนะ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นรูปแบบเกมที่ต้องมีป้อมให้ผู้เล่นเข้าไปทำลายจนถึงฐานทัพของผู้เล่นอีกฝั่งด้วย และเหตุผลที่ทำให้รู้ได้ว่าเกมแนว MOBA ยังฮิตมาถึงทุกวันนี้ก็หนีไม่พ้นเกม Dota 2 ที่ในงานแข่งขัน The International 2019 ยังมีเงินรางวัลมากกว่า 33 ล้านดอลล่าร์ (1 พันล้านบาท) ซึ่งเป็นเงินรางวัลที่สูงสุดในวงการเกม Esports นั่นเอง
แต่กว่าที่เกมแนว MOBA จะยิ่งใหญ่มาถึงทุกวันนี้ได้ เกมแนวนี้ก็ใช้เวลาเดินทางมานานแล้วมากถึง 17 ปี นับตั้งแต่ปี 2002 ที่มีการกำเนิด MOBA ครั้งแรก บทความนี้จึงขอพาไปดูประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของเกมแนว MOBA ในช่วง 17 ปี ที่ผ่านมากัน
ปี 2002 กำเนิด MOBA ผ่านเกมวางแผน Starcraft และกำเนิดแผนที่สุดฮิต Dota ผ่านเกมวางแผน Warcraft 3
Starcraft เป็นเกมแนววางแผนสงคราม (RTS) ฉบับสงครามอวกาศระหว่างมนุษย์ และเอเลี่ยนจากค่ายเกมชื่อดัง Blizzard ที่วางจำหน่ายในปี 1998 ซึ่งตัวเกม Starcraft นอกจากจะมีโหมดให้เล่นคนเดียว หรือสร้างห้องเพื่อเล่นกับคนอื่น เกมยังมีระบบให้ผู้เล่นสามารถสร้างแผนที่ขึ้นมาเองได้ โดยการสร้างก็มีความอิสระมากมายถึงขนาดเปลี่ยนเป็นอีกเกมนึงได้เลย ทำให้มีผู้ที่สนใจออกแบบแผนที่ในเกมนี้โดยใช้ชื่อบนโลกโซเชี่ยลว่า Aeon64 ได้ออกแบบแผนที่ในชื่อ Aeon of Strife โดยมีการเล่นเป็นการหยิบฮีโร่มาป้องกันฐานทัพจากเอเลี่ยนที่บุกเข้ามาจากเส้นทางทั้ง 3 เลน ซึ่งเป็นการหยิบไอเดียจากเกมป้องกันฐาน Tower Defense ในสมัยก่อนมาใช้นั่นเอง
เมื่อแผนที่ Aeon of Strife สร้างเสร็จแล้วออกมาให้หลายคนดาวน์โหลดไปเล่นในปี 2002 Aeon64 ก็มีความคิดที่จะทำให้แผนที่ Aeon of Strife มีการ PVP กันแบบในเกม Starcraft แต่ยังคงเป็นการที่ผู้เล่นทั้งสองฝั่งต้องใช้ฮีโร่ได้เพียงแค่ตัวเดียว และยังคงต้องกันเอเลี่ยนจากอีกฝั่งของผู้เล่นมาบุก แผนที่ Aeon of Strife จึงมีการแตกแยกออกมาเป็นแผนที่ 2 VS 2 และ 3 VS 3 ซึ่งได้รับความนิยมในช่วงเวลานั้นพอสมควร และนี่ก็คือแผนที่ที่มีระบบการเล่นแบบ MOBA เป็นครั้งแรก
แต่เนื่องจากเกม Starcraft เป็นเกมวางแผนสงครามที่ไม่ได้มีความลึกในการเล่นมากมายอะไร แผนที่ Aeon of Strife จึงมีฮีโร่ที่ให้เลือกใช้ได้เพียงแค่ 8 ตัว รวมทั้งที่ผู้เล่นจะเก็บเงินจากการลาสครีปก็เพื่อมาอัปเกรดค่าพลังโจมตี และป้องกันเท่านั้น แผนที่ Aeon of Strife จึงได้รับความนิยมน้อยลงในเวลาต่อมา รวมทั้ง Aeon64 ที่ไม่สามารถอัปเดตความสนุกใหม่ๆ เข้าไปในแผนที่ได้เพราะเกม Starcraft ไม่ได้เอื้ออำนวยต่อการเล่นแนวนี้เลย
หลังจาก Starcraft กลายเป็นอีกหนึ่งเกมวางแผนสงครามที่ประสบความสำเร็จของค่าย Blizzard ในปี 1998 พวกเขาจึงได้พัฒนาเกมวางแผนในตำนานภาคต่อก่อนหน้าเกม Starcraft นั่นก็คือ Warcraft 3 นั่นเอง โดยเกมนี้วางจำหน่ายในปี 2002 ซึ่งเกม Warcraft 3 เป็นเกมวางแผนรูปแบบสงครามยุคกลางแฟนตาซีระหว่างมนุษย์, ออร์ค, ปีศาจ และเอลฟ์ และยังเป็นเกมวางแผนสงครามเกมแรกที่มีระบบการเล่นลึกว่าเกมอื่น เพราะแต่ละเผ่าจะมีฮีโร่ที่เก่งกว่ายูนิตทั่วไปให้เลือกใช้ ซึ่งฮีโร่จะสามารถอัปเลเวลเพื่อมาปลดล็อคความสามารถพิเศษ และยังสามารถใส่ไอเทมให้ฮีโร่แข็งแกร่งขึ้นได้ รวมทั้งเกมนี้ก็ยังมาพร้อมระบบสร้างแผนที่แบบเดียวกับเกม Starcraft อีกด้วย ทำให้มีนักสร้างแผนที่ในเกมนี้จำนวนมากร่วมมือกันหยิบแผนที่ Aeon of Strife ของ Aeon64 มาใส่ไว้ในเกม
แผนที่ Aeon of Strife ยังคงไม่ได้มีการนำระบบข้อดีของเกม Warcraft 3 มาใช้ จน Karukef ผู้เล่นที่ปิ๊งไอเดียว่าถ้าหากฮีโร่ในแผนที่ Aeon of Strife สามารถมีเลเวลอัปให้ปลดล็อคสกิลมาใช้ได้ ซื้อไอเทมได้หลากหลาย และมีตัวละครให้เลือกเยอะกว่านี้แบบการเล่นทั่วไปของ Warcraft 3 คงจะสนุกขึ้นอย่างมาก ทำให้เขาได้ออกแผนที่ของตัวเองที่มีการเล่นแบบ Aeon of Strife ในชื่อ Valley of Dissent ที่ดึงรูปแบบเกม Warcraft 3 ที่กล่าวไว้ข้างต้นมาใช้มากขึ้นจนเป็นแผนที่ที่ได้รับความนิยมในเกม Warcraft 3 พอสมควร
ต่อมา Kyle ‘Eul’ Summer นักสร้างแผนที่ในเกมนี้เหมือนกันก็มองว่าแผนที่ Valley of Dissent น่าจะมีการเล่นที่ต้องใช้กลยุทธ์มากกว่านี้ เขาจึงได้ลองสร้างแผนที่ใหม่อยู่หลายครั้งโดยใช้รูปแบบการเล่น Valley of Dissent ซึ่งการลองสร้างมาจนถึงครั้งที่สองของเขาในแผนที่ Thirst of Gamma ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เพราะรูปแบบการเล่นมีความซับซ้อนมากเกินไปอย่างการเพิ่มเลนที่มากถึง 5 เส้นทาง แต่แผนที่ที่ Eul สร้างก็ทำให้เกิดระบบครีปป่าในวงการเกม MOBA
หลังจากลองผิดลองถูกอยู่นาน Eul ก็ได้สร้างแผนที่ล่าสุดของเขาในชื่อ Defense of the Ancient All-Stars (Dota All-Stars) ที่มีรูปแบบการเล่น 5 VS 5 โดยเขาได้พยายามนำแผนที่ Thirst of Gamma มาย่อส่วนให้เหลือการเล่นเพียงสามเลน ภายในฐานของแต่ละฝั่งจะมีร้านขายของมาให้ในจุดเกิด รวมทั้งครีปป่าก็จะถูกลดให้มีป่าอยู่ช่วงกลางแผนที่เท่านั้น ซึ่งเป็นความลงตัวพอดีของเกมแนว MOBA ที่ผู้เล่นจะต้องใช้กลยุทธ์ให้มากขึ้นกว่าในแผนที่ Valley of Dissent ทำให้เป็นที่สนอกสนใจของใครหลายคนจนได้รับความนิยมมานานหลายปี โดยแผนที่ Dota All-Stars ก็มีการเปลี่ยนมือผู้สร้างอยู่หลายครั้ง และมาจบที่ Icefrog สามารถปรับปรุงแผนที่ Dota All-Stars ให้โด่งดังถึงขนาดรายการแข่งขันเกมใหญ่ในช่วงนั้นอย่าง World Cyber Games (WCG) ต้องจัดการแข่งขันเกม Warcraft 3 ในแผนที่นี้ขึ้นมาเลยทีเดียว
นอกจากการอัปเลเวลเพื่อปลดล็อคสกิล และการซื้อไอเทมมาใส่ให้ตัวละครได้มากถึง 6 ช่อง เกม Warcraft 3 ยังทำให้แนวเกม MOBA มีระบบกลางวัน และกลางคืน รวมทั้งยังทำให้สามารถนำไอเทมมาผสมให้แข็งแกร่งขึ้นได้อีกด้วย
ปี 2009 เกมแรกที่เป็นแนว MOBA และ MOBA เกมแรกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
หลังจากแผนที่ Dota All-Stars ได้ทำให้แนวเกม MOBA โด่งดังขึ้นมาอย่างมากก็มีนักพัฒนาเกมลองไปสร้างเป็นเกมแฟลชอยู่มากมาย แต่เกม MOBA จริงๆ ที่ได้ออกมาวางขายในปี 2009 คือ Demigod เกมสงครามของเหล่าทวยเทพที่ใช้รูปแบบการเล่น MOBA ที่มีความหลากหลายในด้านสกิลฮีโร่ และยังมีแผนที่หลายรูปแบบให้เลือกเล่น รวมทั้งเกมนี้ยังมาพร้อมกราฟฟิคที่สวยมากในยุคนั้น
แต่เกม Demigod กลับไม่ได้ถูกสร้างมาให้ประสบความสำเร็จแบบเดียวกับ Dota เพราะทางผู้พัฒนาต้องการจะขายเกมนี้ในความเป็นสงครามเหล่าทวยเทพนอร์สเท่านั้น ด้วยความที่ตัวเกมมีฮีโร่แค่ 8 ตัว และไม่ได้มีการอัปเดตในเวลาต่อมา เกม Demigod จึงไม่ได้รับความสนใจจากผู้ชอบเกมแนว MOBA และก็ถูกใครหลายคนลืมเกมนี้ไปในที่สุด
ในเวลาต่อมา ค่ายเกมน้องใหม่ Riot Games ก็ได้เปิดให้บริการ League of Legends เกม MOBA เล่นฟรีที่ด้านกราฟฟิคดูไม่สวยสมยุคซักเท่าไหร่ในช่วงแรก แต่ก็มาพร้อมดีไซน์ฮีโร่ที่ตอบโจทย์คนเล่นทั้งในแถบยุโรป และเอเชีย เกมการเล่นก็ถูกปรับให้แตกต่างจาก Dota อย่างมากที่ทำให้เล่นได้เข้าใจง่ายมากขึ้น แต่ก็ยังคงความสนุกเอาไว้ รวมทั้งเกมนี้ยังได้มีการอัปเดตปรับปรุงอยู่ตลอดเวลาก็ทำให้ League of Legends กลายเป็น MOBA เกมแรกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และก็กลายเป็นเกมที่มียอดผู้ชมสูงสุดบนแพลตฟอร์มถ่ายทอดสด Twitch บ่อยๆ ในปัจจุบัน
ปี 2010 MOBA เกมแรกที่นำรูปแบบการเล่นของ Dota มาใช้ และ MOBA เกมแรกที่นำไปผสมกับเกมแนวอื่น
S2 GAMES ค่ายที่เริ่มสร้างเกมมาตั้งแต่ต้นปี 2000 ก็ได้วางขายเกมใหม่ของพวกเขาในชื่อ Heroes of Newerth ภายในปี 2010 โดยเกมนี้นอกจากจะเป็นแนว MOBA ก็ยังมีการหยิบฮีโร่ และไอเทมจากแผนที่ Dota All-Stars มาใช้ด้วย แต่ถูกดีไซน์เป็นโมเดลใหม่เพื่อไม่ให้โดนละเมิดลิขสิทธิ์นั่นเอง ซึ่งเกม Heroes of Newerth ก็สามารถทำกราฟฟิค และเอฟเฟคได้อลังการตามเกในยุคสมัยนั้น แต่กลับมาพลาดด้านการตลาดในตอนแรกที่ใช้วิธีให้ผู้เล่นต้องซื้อเกมนี้ในราคาแพง ทำให้มีจำนวนเกมเมอร์น้อยมากที่ยอมซื้อมาเล่น Heroes of Newerth จึงกลายเป็นเกมที่ล้มเหลวในเวลานั้น
แต่หลังจากที่ทาง S2 GAMES ได้เปลี่ยน Heroes of Newerth เป็นเกมฟรี และมาจับมือกับค่ายเกม Garena เพื่อบุกตลาดฝั่งเอเชียก็ทำให้พวกเขาสามารถพลิกความล้มเหลวเป็นความสำเร็จได้ทันที เพราะเกม Heroes of Newerth กลับได้รับความนิยมในประเทศไทยอย่างมากจากการที่เกมเมอร์ในประเทศไทยยังไม่รู้จักเกม League of Legends ที่มาก่อนหน้ากันเยอะ จึงสามารถมาทำเงินในประเทศนี้ได้เป็นอย่างดี และก็ทำให้พวกเขามีทุนพอจะไปสร้าง MOBA เกมใหม่ในชื่อ Strife ภายในปี 2013
อีกหนึ่งเกม MOBA ในปี 2010 ที่สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ๆ เอาไว้คือ Monday Night Combat เกมที่ยังคงใช้วิธีเล่นแบบ MOBA แต่ทำการเปลี่ยนมุมกล้องเป็นแนวมุมมองบุคคลที่สาม (TPS) และยังนำมาผสมกับเกมแนวยิง (Shooting) ที่สร้างความแปลกใหม่ไม่เหมือนใครได้อย่างลงตัวมาก แต่เกมนี้ก็ประสบปัญหาความไม่พร้อมที่เยอะไปหน่อยอย่างระบบค้นหาแมตซ์ที่ไม่มีมาให้ตั้งแต่เกมเปิดให้บริการก็ทำให้ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าที่ควร
แต่เกม Monday Night Combat ก็ยังคงสามารถหามาเล่นได้อยู่ในตอนนี้ รวมทั้งยังมีภาคต่อในชื่อ Super Monday Night Combat ที่ก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จด้วยเหตุผลเดียวกัน แต่เกมนี้ก็ทำให้มีหลายเกมนำไอเดีย MOBA มุมมองบุคคลที่สามไปสานต่อนั่นก็คือเกม SMITH และ Paragon
ปี 2012 MOBA เกมแรกที่บุกตลาดคอนโซล, MOBA เกมแรกที่ถูกสร้างลงมือถือ และเกม MOBA ที่มีธีมจากหนังฮอลลีวู้ดเป็นเกมแรก
ช่วงต้นปี 2012 ได้มีเกมในชื่อ Awesomenauts ที่เป็นเกม MOBA ฉบับกราฟฟิค 2 มิติออกมาวางจำหน่าย ซึ่งเกมนี้มีความน่าสนใจตรงที่ได้ลงให้กับเครื่องเกมคอนโซลอย่าง PlayStation 3 และ XBOX 360 จึงถือว่าเป็น MOBA เกมแรกที่ลงให้กับเครื่องคอนโซลเลยก็ว่าได้ ส่วน Awesomenauts ก็เป็นเกมที่ได้กระแสตอบรับดีพอสมควรจากทางฝั่งยุโรป ซึ่งเกมนี้ยังได้มาลงให้บนเครื่องเกมคอนโซลเจนใหม่อย่าง PlayStation 4 และ XBOX One อีกด้วย แต่ด้วยความที่เกมนี้จะเจาะตลาดไปในทางอินดี้ก็ทำให้ใครหลายคนไม่รู้จักนั่นเอง
ปี 2012 ก็ยังถือเป็นปีที่เริ่มมีการสร้างเกมบนสมาร์ทโฟนได้หลากหลาย และสามารถทำกราฟฟิคได้ค่อนข้างสวยงาม ทำให้ทาง Gameloft ได้ปล่อยเกมบนมือถือในชื่อ Heroes of Order & Chaos ที่เป็นการนำฮีโร่จากจักรวาล Order & Chaos ของ Gameloft มาสู้กันในรูปแบบ MOBA ซึ่งตัวเกมก็ยังคงสามารถอยู่ในระดับของเกม MOBA มาตรฐานทั้งการมีระบบอัปเลเวลเพื่อใช้การปลดล็อคสกิล และการซื้อไอเทมเสริมความแข็งแกร่งที่มีหลากหลายรูปแบบ ทำให้ในเวลานั้นก็มีข่าวของเกมนี้อยู่พอสมควรว่าจะเป็นเกม MOBA สมัยใหม่ที่สามารถไปเล่นที่ไหนก็ได้
แต่เกม Heroes of Order & Chaos กลับไม่ประสบความสำเร็จ เพราะช่วงนั้นสมาร์ทโฟนยังไม่สามารถจับต้องกันได้เป็นเรื่องง่ายในแถบเอเชีย รวมทั้งที่ฝั่งยุโรปก็ไม่ได้ชอบเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนกันเป็นหลักเลย ส่งผลให้เกม Heroes of Order & Chaos อยู่มาได้จนถึงปี 2016 ก่อนที่จะมีเกม MOBA อื่นบนมือถือจากฝั่งจีนมาแย่งตลาดไปจนต้องเลิกอัปเดตในที่สุด
แต่ก่อนที่เกม Heroes of Order & Chaos จะวางจำหน่ายก็มีเกมในชื่อ Plant War จากค่าย GAMEVIL ที่มีการเล่นเป็นแนว MOBA มาก่อนอีกด้วย เพียงแต่เกม Plant War ไม่เข้าข่าย MOBA ก็เพราะไม่ใช่เกมแข่งขันระหว่างผู้เล่น แต่เป็นเกมเล่นคนเดียวเพื่อผ่านด่าน
ในปีเดียวกัน ค่ายหนังฮอลลีวู้ด Warner Bros ที่ได้บุกตลาดมาทำเกมขายกับเขาก็ได้วางขาย Guardians of Middle-Earth เกม MOBA ที่อยู่ในจักรวาลของหนัง The Lord of The Rings โดยทาง Warner Bros ก็คงมองว่าการมีเกม MOBA จากหนังชื่อดังจะต้องทำให้คนหันมาอยากเล่นกัน แต่เกม Guardians of Middle-Earth กลับมีระบบการเล่นที่ไม่สมดุล ซึ่งนั่นก็เพราะผู้พัฒนาเกมนี้ไม่มีประสบการณ์ศึกษาแนวเกม MOBA ที่ดี รวมทั้งการตลาดของเกมนี้ก็ดันไปมีความใกล้เคียงกับเกม Demigod ทำให้ไม่มีการอัปเดตตัวเกมจนดีขึ้น เกม Guardians of Middle-Earth จึงถูกลืมๆ ไปแม้จะเป็นเกม MOBA จากจักรวาลหนังชื่อดัง The Lord of The Rings ก็ตาม
ปี 2013 MOBA ภาคต่อในตำนานที่มาพร้อมเงินรางวัลถล่มวงการเกม
ในปี 2011 ทีมพัฒนาเกม Valve ที่ได้สร้างผลงานเกมเอาไว้มากมายไม่ว่าจะเป็นซีรี่ย์เกม Half Life, Left 4 Dead และ Counter Strike ได้จับมือกับ Icefrog ผู้พัฒนาแผนที่ Dota All-Stars เป็นคนสุดท้ายในเกม Warcraft 3 เพื่อมาร่วมสร้างเกม Dota 2 ภาคต่อที่จะไม่ใช่เพียงแค่แผนที่อีกต่อไป แต่จะเป็นเกมจริงๆ ในฉบับ Dota เสียที ซึ่งเกม Dota 2 ก็ได้มาเปิดบริการเต็มตัวให้ทุกคนได้เล่นกันภายในปี 2013
แต่ในช่วงเปิดตัวเกม Dota 2 ในปี 2011 ก็ได้มีการจัดแข่งขันเกมนี้ขึ้นในชื่อ The International โดยมีเงินรางวัลรวมมากถึง 1.6 ล้านดอลล่าร์ (49 ล้านบาท) ซึ่งมีทีมนักแข่งจาก Dota ภาคแรกมากถึง 16 ทีมจากทั่วโลกในการแข่งครั้งนี้ และก็เป็นทีม Na’Vi จากประเทศยูเครนที่สามารถคว้าเงินรางวัลชนะเลิศไปได้มากถึง 1 ล้านดอลล่าร์ (30 ล้านบาท) ซึ่งเงินรางวัลของเกมสมัยนั้นส่วนใหญ่จะอยู่ที่หลักพันดอลล่าร์ถึงหลักแสนเท่านั้น แต่ด้วยความที่ Dota 2 เปิดตัวเงินรางวัลการแข่งขันครั้งแรกมาถึงล้านก็ทำให้นักแข่ง MOBA จากเกมอื่นถึงกลับต้องหันมาเล่นเกมนี้แทนอย่างทีมนักแข่ง Fnatic ของเกม Hero of Newerth ก็ยังย้ายมาเล่นเกมนี้กันถึง 4 คนในทีมเลยทีเดียวในช่วงเวลานั้น และก็ยังทำให้เกม Dota 2 ที่เปิดให้บริการเต็มตัวในปี 2013 มีผู้เล่นเยอะเป็นอันดับต้นๆ ของเกมแนวนี้ด้วย
ปี 2015 เกม MOBA บนมือถือของบริษัทที่รวยเป็นอันดับต้นๆ ในประเทศจีน
Tencent บริษัทชื่อดังจากประเทศจีนที่ทำธุรกิจใหญ่หลากหลายโครงการจนรวยเป็นอันดับต้นๆ ในตอนนี้ของฝั่งจีนได้เปิดให้บริการเกมมือถือในชื่อ Honor of Kings ภายในปี 2015 ซึ่งเป็นเกม MOBA ที่มีรูปแบบการเล่นที่คล้าย League of Legends มากที่สุด จากการที่ Tencent เป็นเจ้าของค่าย Riot Games ผู้พัฒนา League of Legends ด้วยนั่นเอง
สำหรับเกม Honor of Kings ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในจีนอย่างมาก ด้วยความที่เกมทำฮีโร่ออกมาได้ถูกใจคนจีน และด้วยทุนที่หนาจึงมีการอัปเดตเกมด้วยเซอร์ไพรส์ใหญ่ๆ มากมาย ทำให้ Tencent จึงทำการรุกนำเกม MOBA ไปตีตลาดนอกประเทศจีน โดยเลือกที่จะเปลี่ยนธีมเกม Honor of Kings ใหม่ให้ถูกใจผู้เล่นนอกประเทศจีนมากขึ้นอีกด้วยจึงกลายเป็นเกม Arena of Valor (AOV) สำหรับฝั่งยุโรปนั่นเอง
แต่สำหรับเกม Arena of Valor ก็ดูท่าจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เพราะเกมเมอร์ในแถบนั้นไม่ได้ชอบการเล่นเกมบนมือถือแบบคนเอเชีย แต่สำหรับทางเอเชียที่เป็นเกมเวอร์ชั่นในชื่อ Realms of Valor (ROV) กลับประสบความสำเร็จในระดับที่ดีเลยอย่างในประเทศไทย ที่ทำให้ผู้ที่ไม่ใช่เกมเมอร์หันมาเล่นเกมแบบนี้กันได้
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เกม ROV กลายเป็นเกมที่ต้องถูกจาลึกในประวัติศาสตร์ก็คงจะหนีไม่พ้นการที่ตัวเกมลงทุนเซอร์ไพรส์ผู้เล่นยิ่งกว่าเกมอื่นอย่างเห็นได้ชัด อย่างการซื้อลิขสิทธิ์จากค่ายการ์ตูนคอมมิค DC เพื่อนำซุปเปอร์ฮีโร่ Batman มาเป็นฮีโร่ในเกมนั่นเอง และก็เป็นที่น่าสนใจว่าบริษัทที่รวยเป็นอันดับต้นๆ อย่างจีนก็ยังเลือกที่จะลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวกับเกมเลย
ปี 2019 เกม MOBA ชื่อดังเริ่มทำเกมแยกเป็นแนว Auto Chess
เนื่องจากเกม Dota 2 ได้มีระบบให้ผู้เล่นสามารถสร้างแผนที่ให้กลายเป็นอีกเกมการเล่นแบบนึงได้เหมือนกับเกม Starcraft และ Warcraft 3 ทำให้มีกลุ่มนักพัฒนาเกม Drodo Studio ได้สร้างแผนที่ชื่อในชื่อ Auto Chess เอาไว้โดยแผนที่นี้จะมีการเล่นเป็นแบบหมากกระดานที่มีการตั้งกฏขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ผู้เล่นจะต้องเก็บเงินซื้อฮีโร่นำมาวางไว้บนกระดานของตัวเองเพื่อรอนำไปต่อสู้กับผู้คนอื่น แถมยังต้องใช้กลยุทธ์ที่เกมมีเอาชีวิตรอดจากผู้เล่นฝั่งอื่นให้ได้เป็นคนสุดท้าย แผนที่ Auto Chess จึงกลายเป็นที่นิยมมากในช่วงต้นปี 2019 ทำให้ยอดผู้ชมเกม Dota 2 บนแพลตฟอร์มถ่ายทอดสด Twitch กลับมามีเยอะเป็นอันดับต้นๆ อีกครั้ง และยังมีผู้ที่เข้าไปเล่นแผนที่นี้มากถึง 2 แสนคนต่อวันมาแล้ว
แต่ในเวลาต่อมา Drodo Studio ที่พัฒนาแผนที่นี้ก็ออกไปทำเกมมือถือ Auto Chess โดยเป็นเกมที่มีรูปแบบการเล่นเหมือนกับแผนที่ Auto Chess ทั้งด้านฮีโร่ และไอเทม แต่ถูกเปลี่ยนโมเดลเพื่อไม่ให้ติดลิขสิทธิ์จากเกม Dota 2 และล่าสุดก็ทำให้ทางค่าย Epic Games ได้ทำการจับมือกับทาง Drodo Studio เพื่อนำเกม Auto Chess มาเปิดให้บริการบน PC ที่มีกราฟฟิคภาพสวยกว่าเดิมอีก ทางค่ายเกม Valve จึงไม่รอช้าด้วยการเปิดให้บริการเกมใหม่จากจักรวาล Dota 2 ในชื่อ Dota Underlords ที่มีระบบการเล่นเป็นแบบ Auto Chess ออกมาสู้ซะเลย โดยภายในเกม Dota Underlords ยังคงถูกปรับให้เล่นได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
แต่ไม่ใช่เพียงแค่ทางค่ายเกม Valve ที่คิดจะทำเกมแยก MOBA ของตัวเองมาเป็น Auto Chess เพราะค่ายเกมอื่นที่เป็นเจ้าของเกม MOBA ชื่อดังอย่าง Riot Games ก็ทำโหมดการเล่นแบบ Auto Chess ในเกม League of Legends ออกมาในชื่อ Teamfight Tactics รวมทั้งทาง Tencent ก็ยังคงกำลังพัฒนาโหมดการเล่นแบบ Auto Chess ให้กับเกม ROV อีกด้วย ทำให้เกมการเล่นแบบ Auto Chess กลายเป็นเทรนด์ทำเกมใหม่ให้กับเจ้าของเกม MOBA ชื่อดังไปซะอย่างงั้น
และนี่ก็คือประวัติศาสตร์สำคัญของเกม MOBA ในช่วง 17 ปีที่ผ่านมา หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ และความรู้ให้กับใครหลายๆ คน
