ไม่ต่างกับเรื่องราวของ “Cherie” ภัทร ภัทรภิรมย์ วัย 27 ปี ผู้ก่อตั้งทีม Bacon และเป็นโปรเพลย์เยอร์ที่เคยไปไกลถึงเวทีระดับโลก ครั้งหนึ่งเขาเคยเกือบหันหลังให้วงการเพื่ออาศัยธรรมะเป็นที่พึ่ง

เส้นทางของเขาไม่เคยโรยด้วยกลีบกุหลาบที่ต้องฝ่าฝันอุปสรรคกว่าจะประสบความสำเร็จบนเส้นทางนี้ แต่เบื้องลึกในแต่ละเหตุการณ์ทุกช่วงชีวิตเป็นอย่างไร ? อะไรทำให้ครึ่งหนังเกือบตัดสินใจหนีไปบวช และเหตุผลอะไรที่ทำให้ Cherie กลับสู่สนามแข่งอีกครั้ง ติดตามทุกเรื่องราวได้ที่นี่


เดินสาย MOBA

ก่อนที่ Realm of Valor(RoV) จะถือกำเนิดขึ้น Dota และ League of Legends คือสองเกมดังที่ครอบครองวงการ MOBA และยังเป็นเกมที่เรียกว่า เป็นจุดเริ่มต้นของนักแข่ง MOBA ที่ต้องเคยผ่านมาเกือบทั้งสิ้น Cherie เองก็เช่นกัน

“ผมแข่งเกมมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยเล่น LoL ผมเป็นคนที่จริงจังกับเกมเสมอ” Cherie กล่าวเริ่มถึงความตั้งใจที่มีต่อเกม และอยู่ในวงการมายาวนานก่อนที่ อีสปอร์ต ในไทยจะถูกจุดกระแสขึ้นมา

“ช่วงเรียนมหาวิทยาลัย ผมจริงจังกับเกมจนบางครั้งต้องขาดเรียนเพื่อไปแข่ง ทำให้จากที่ต้องเรียนจบใน 4 ปีกลายเป็นเรียน 5 ปี แต่สุดท้ายก็เรียนจบ ผมจริงจังกับเกมเสมอ หลังแข่ง LoL ผมไปแข่ง Overwatch แต่แชมป์ตอนนั้นได้เงินน้อยมาก แล้วเป็นช่วงวัยทำงานพอดี ผมเลิกเล่นเกมเพื่อไปทำงาน ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป”

เวทีแข่งที่เงินรางวัลน้อย วงการเกมที่ยังไม่จริงจังเป็นรูปเป็นร่างทำให้ Cherie ต้องหางานทำเหมือนเพื่อนๆที่เรียนจบมหาวิทยาลัย แต่ก็เป็นช่วงเดียวกับที่ RoV ถือกำเนิดขึ้น และทำให้เขาได้ลิ้มลองความสนุก MOBA ผ่านมือถือ

“ตอนนั้นเป็นช่วงที่ RoV เข้ามาพอดี ผมมองว่า มันเป็นเกมมือถือเล่นได้ใช้เวลาไม่นาน ก็เล่นเกมควบคู่ไปกับการทำงาน เพราะพักผมก็เล่นได้ในมือถือ”

“จริงๆตอนนั้นสร้างทีมของตัวเองแข่งขันเกมมาสักพักอยู่แล้ว รู้จักนักแข่งที่แข่งเกมเก่าๆกันมาก็เคยเล่นด้วยกันอยู่แล้ว ก็เลยคิดจะฟอร์มทีม RoV ขึ้นมา”

สำหรับ Cherie การสร้างทีม RoV ไม่ใช่เรื่องยาก ด้วยรูปแบบในยุคนั้นที่ไม่ต้องมีขั้นตอนอะไรมากมาย ทุกอย่างเกิดจากการชวนปากเปล่า และสัญญาใจ ทำให้รวมตัวกันง่าย รวดเร็ว นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ต่อมา ทีมที่เขาก่อตั้งขึ้นได้กลายเป็นทีม RoV ระดับตำนานในนาม Bacon…

RoV Community Tournament Season 1 เป็นรายการแรกของ Cherie และเพื่อนร่วมทีม ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขาทำให้สามารถประเดิมแชมป์แรกทันที ก่อนจะเดินหน้าต่อในทัวร์นาเมนต์ Garena Star League (GSL) เวลานั้น ทีมของเขาถูกยกเป็นเต็งแชมป์ทุกรายการที่ลงแข่ง

“ผมไม่ได้รู้สึกอะไรที่ตอนนั้นเราถูกมองเป็นเต็งแชมป์ในแต่ละรายการ สิ่งที่ทำให้เราแข็งแกร่งในตอนนั้นคือตัวผู้เล่นนี่แหละ จริงๆรูปแบบในตอนแรกเราไม่มีอะไรเลย คือใครว่างก็เล่น ใครไม่วางก็ไม่ต้องเล่น รูปแบบเหมือนทีม RoV ทุกวันนี้ยังไม่มีหรอก”

อย่างไรก็ตามในรายการ GSL ตัว Cherie และทีม พลาดท่าแพ้ Neolution E-Sport ได้เพียงรองแชมป์

“หลังจากนั้นทีมมีการปรับเปลี่ยนต้องหาผู้เล่นใหม่เข้ามา การเปลี่ยนแปลงก็ไปในทางที่โอเค แต่มันก็ไม่ 100% ตามที่ต้องการ”

“อีสปอร์ตสมัยก่อนดึงใครมาก็ได้ ทีมเราแข่งอยากได้แชมป์ก็มา ไม่อยากไม่ต้องมา แต่สมัยนี้ทุกอย่างต้องใช้เงิน จะมองว่า ถ้ามาจะจ่ายให้เท่าไหร่ ส่วนฝีมืออีกเรื่อง มันแตกต่างกันสิ้นเชิง”

แม้จะไม่สมบูรณ์เต็ม 100% ตามที่หวัง แต่ Cherie และเพื่อนร่วมทีมก็แข็งแกร่งขึ้น หลังการเปลี่ยนไลน์อัพหนแรก และเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทำให้พวกเขา กลายเป็นตัวจุดกระแส RoV และวงการอีสปอร์ตในไทย


ผู้จุดกระแส RoV – อีสปอร์ต ในไทย

“ถ้าจุดพีคของผมและทีมก็คงเป็นตอนนั้นล่ะครับ” Cherie ยืนยันถึงจุดพีค ที่ส่งผลต่อวงการ RoV และอีสปอร์ตในประเทศไทย เมื่อพวกเขาคว้าแชมป์ RoV Road To Glory ได้สิทธิ์แข่งขันรายการ Throne of Glory ที่ประเทศเวียดนาม

“ก่อนไปเวียดนาม กะทำเต็มที่ไม่มีหวั่นไหวอะไรเลย หวังเข้ารอบก็ดีแล้ว แต่ตอนซ้อมเราสู้ทีมไต้หวันไม่ได้ ไม่ชนะเขาสักเกม แต่พวกผมตอนซ้อมกับตอนแข่งจะไม่เหมือนเดิม มันเหมือนอยู่ๆก็ทำได้”

ความสำเร็จในรายการดังกล่าวเปลี่ยนโฉมหน้า RoV และอีสปอร์ตประเทศไทย จากหน้ามือเป็นหลังมือ ฐานแฟนคลับของ Cherie และทีม เพิ่มจำนวนแบบก้าวกระโดด ควบคู่ไปกับกระแส RoV ที่ได้รับความนิยมยิ่งขึ้น

“ต้องบอกว่า ผมไม่ค่อยตื่นเต้นกับอะไรเท่าไรด้วยสไตล์ผมเอง ก็ดีใจในใจครับ ผมมองว่า มันเป็นจุดเปลี่ยนอีสปอร์ตในไทยค่อนข้างเยอะ เพราะทั้ง RoV บูมก็เพราะเราไปคว้าแชมป์มา อีสปอร์ตเคลื่อนไหวเยอะขึ้นในตอนนั้น”

“จริงๆผมอยู่มานานตั้งแต่คนยังไม่รู้จักวงการนี้ ผมแข่งเกมตั้งแต่หลักหมื่น ถ้านับ RoV ผมก็อยู่ในวงการมา 8 ปี กว่า เลยรู้ว่ามันขยับขึ้นจริง คนสนใจมากขึ้น มีการทำข่าวนั่นนี่นู่น เทียบกับเมื่อก่อนมันไม่มีอะไรเลย มันเหมือนเริ่มเดินหน้าขึ้นไปเยอะมาก ไปในทิศทางที่ดีขึ้น”

“ผมเล่นเกมตั้งแต่เด็กเป็นคนไม่มีความชอบอะไรเท่าไร แต่พอเล่นเกมได้เงินมันก็ทำให้พ่อแม่สบายใจในส่วนตัวของผมนะ เลยมองว่ามันก็เป็นเรื่องดีต่อคนอื่น และเด็กรุ่นหลังที่สบายหน่อยที่มีทีมซัพพอร์ท ค่อนข้างน่าอิจฉา 555+ (ฮา)”

Cherie มองว่า การโปรโมตของ Garena ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ RoV และวงการอีสปอร์ต เติบโตขึ้น

“จริงๆส่วนหนึ่งที่ทำให้บูมมากๆก็เพราะ Garena เขาช่วยโปรโมทเกม ถ้าแค่เด็กอย่างเราก็คงทำไม่ได้ RoV เป็นเกมแรกที่เงินรางวัลสูง ด้วยอะไรที่มูลค่าสูงมันก็ทำการตลาดได้ คนเลยสนใจเยอะ ก็อาจเกี่ยวกับพวกผมด้วย แต่มันก็เกี่ยวกับ Garena ด้วย เพราะต่อให้เราได้แชมป์มา แต่บริษัทไม่ดันมันก็ไปไม่ได้”

“ตอนนั้นผมไม่ได้กังวลอะไรเลยนะที่มันก้าวไปเร็วแบบนั้น ผมมองว่า มันดีขึ้นเรื่อยๆหลังจุดกระแสขึ้นมา RoV กลายเป็นเกมแรกที่มีการแข่งขันสูง ด้วยความเป็นเกมมือถือแนว MOBA ผมก็คิดว่า น่าจะพุ่งขึ้นเรื่อยๆ ในตอนนั้นเลยไม่ได้กังวลอะไร”


แชมป์ RoV Pro League ทีมแรก

Cherie ได้มีโอกาสพาทีมเข้าร่วมศึก Rov Major League Season 1 โดยเขาเป็นผู้บริหารจัดการ ยกระดับความเป็นมืออาชีพของทีม ทั้งเรื่องแคมป์ฝึกซ้อม,ตารางซ้อม,สปอนเซอร์ เพื่อให้ทุกอย่างพร้อมสำหรับการแข่งขันที่กำลังจะเริ่มขึ้น

“ตอนแรกเราไม่เคยรวมตัวซ้อมด้วยกันเลย เพราะมีปัญหาเรื่องเงิน ไม่ได้มีเงินกองกลาง แต่เมื่อได้แชมป์ก็มีเงินกองกลาง เลยเริ่มหาบ้านเช่ารวมตัวอยู่ด้วยกัน เรามีการจัดตารางซ้อมและเป็นระบบมากขึ้น มีการหาสปอนเซอร์เข้ามาให้กับทีม”

ความตั้งใจของ Cherie และทีม ประสบความสำเร็จเมื่อพวกเขาเอาชนะ Bazaar Gaming 3-1 คว้าสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งในรายการ RoV Pro League Season 1

“ตอนนั้นมีบ้างที่อาจเล่นกันพลาด แต่ผมยังมองว่า ยังไงมันก็แชมป์ ผมเป็นคนมีความมั่นใจสูง ไม่ค่อยกังวล กลัว หรือตื่นเต้นอะไร ผมคิดว่า ผมทำได้ เกมมันเล่น 5 คน ผมคิดว่า ถ้าผมทำได้ทุกคนก็ทำได้”

ความมั่นใจของ Cherie ไม่ผิดเพี้ยนเมื่อสุดท้าย เขาและทีมคว้าแชมป์ RoV Pro League Season 1 ได้สิทธิ์เป็นตัวแทนร่วมแข่งขัน Arena of Valor World Cup (AWC) ที่เมืองแอลเอ ประเทศสหรัฐอเมริกา กราฟของ Cherie พุ่งถึงขีดสุด


ชิงแชมป์โลก

แม้จะเป็นเวทีระดับครั้งแรก แต่ Cherie และเพื่อนร่วมสามารถทะยานเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ แชมป์โลกที่พวกเขาหวังเอาไว้อยู่แค่เอื้อมเท่านั้น

ทว่า Cherie ต้องเจ็บช้ำเมื่อพ่ายต่อทีมเกาหลีใต้ คว้าเพียงรองแชมป์โลกกลับประเทศไทย ตัวของ Cherie และเพื่อนร่วมทีมต่างผิดหวังที่พยายามฝึกซ้อมอย่างหนัก แต่ไม่สามารถไปถึงแชมป์โลกได้สำเร็จ อย่างไรก็ตามการไปถึงเวทีระดับโลกไม่สูญเปล่า เพราะกระแส RoV และตัวของ Cherie ยังคงได้รับการชื่นชมจากแฟนๆที่คอยซัพพอร์ทอยู่เสมอ

หลังจบทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์โลก Cherie ยังคงมุ่งมั่นฝึกฝีมือต่อไป กระทั่งได้ย้ายเข้าเป็นผู้เล่นในสังกัด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ช่วงสั้นๆ ก่อนจะแยกทางกับทีม และตัดสินใจออกจากทีมที่เขาเป็นคนก่อตั้งในเวลาต่อมา

ด้วยหลากหลายเรื่องราวที่ถาโถมเข้ามาในชีวิตของเขาในเวลานั้น Cherie จึงตัดสินใจยุติการบทบาทผู้เล่นชั่วคราวเพื่อพักใจ และทบทวนอนาคตบนเส้นทางเกมต่อไป แน่นอนว่าเขายังคงคิดถึงบรรยากาศการแข่งขันที่คุ้นเคยเสมอ

“ใจนึงผมก็ยังอยากแข่งนะ แต่อีกใจก็อยากพักก่อน เพราะผมเจอเรื่องเยอะมากที่ถาโถมเข้ามา รู้สึกเหนื่อย และท้อกับชีวิตเลย ผมใช้เวลาอยู่นานกว่าจะกลับมาได้”

“ตอนนั้นมีหลายอารมณ์ เลยอยากอยู่กับตัวเอง มีช่วงหนึ่งผมจะหนีไปบวช แต่ยังมีภาระอยู่ คือผมรู้สึกว่า มันไม่ไหว”

“ณ วันหนึ่งผมรู้สึกอึดอัด มันไม่ใช่ที่ของเราอีกแล้ว แม่เขาก็บอกว่าถ้าเหนื่อยก็กลับมาบ้าน ผมร้องไห้ตัดสินใจกลับมาอยู่บ้านดีกว่า”

เดิมทีแม้จะไม่มีชื่อลงแข่ง แต่เขายังสามารถอยู่กับทีมต่อไปได้ในบทบาทอื่น และยังมีลุ้นกลับมามีชื่ออีกครั้ง อย่างไรก็ตามเขาตัดสินใจออกจากทีมเพื่อเริ่มนับหนึ่งใหม่ เพราะไม่สามารถหาความสุขจากบ้านหลังเดิมได้อีกต่อไป

“ใจจริงถ้าผมอยู่ก็ต่อก็คงได้แข่ง แต่ผมเป็นคนที่ทำอะไรถ้าไม่สบายใจไม่ทำ ผมยอมเงินเดือนศูนย์ไปเกือบครึ่งปี แต่ผมทำแล้วสบายใจ ผมเป็นคนที่ได้เงินเท่าไหร่ก็ได้ชิลๆ ไม่มีเงินก็ใช้ชีวิตได้ ผมทำอะไรก็ได้ที่ผมมีความสุข”

“ถ้าย้อนกลับไปตอนนั้นได้ ผมคิดว่า ถ้ารักตัวเองมากกว่านี้ ผมก็คงไปไกลกว่านี้ ผมคิดแทนคนอื่นจนไม่ได้คิดถึงตัวเอง เหมือนเราก้าวพลาดในชีวิต พอรับผิดชอบคนเดียวไม่เหมือนตอนมีใครช่วยมาด้วยกัน”

“มันก็เป็นประสบการณ์เรียนรู้ไป เป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่สำหรับผมในหลายๆเรื่อง”



การเดินทางครั้งใหม่ที่ eArena

หลังห่างหายจากเวทีแข่งขัน แต่ในปี 2021 Cherie กลับคืนสังเวียนอีกครั้งในนามผู้เล่นของทีม eArena น้องใหม่แห่งศึก RoV Pro League 2021 Summer 

ก่อนหน้านี้ Cherie ถูกชักชวนไปร่วมทีมอีสปอร์ตทีมหนึ่ง แต่ด้วยหลายเหตุผลภายในทีมรวมถึงตัวเขาเองที่ยังรู้ไม่สึกไม่พร้อมเต็มร้อย ทำให้ต้องบอกปัด แต่โอกาสก็เข้ามาหาเขาอีกครั้งเมื่อ โค้ชป้อม จักรพล ป้อมปราณี หรือ Mistgun อดีตโค้ช RoV ผู้เคยพา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์โปรลีก 2 สมัยติด ชวนมาร่วมทีม eArena ครั้งนี้เขาไม่ปล่อยโอกาสหลุดลอย เลือกตอบตกลงทันที

“ตอนแรกซีซั่นนี้ผมคิดว่า ถ้าได้แข่งก็ดี ถ้าไม่ได้แข่งก็ไม่เป็นไร”

“หลังจากนั้นพี่ป้อมมาชวนไปอยู่ด้วย ตัวผมยังคงคิดถึงบรรยากาศการแข่งขัน ผมเป็นพวกหิวการแข่งขันมาตั้งแต่เด็กๆ มันตื่นเต้นดี ในช่วงที่หยุดไปผมเล่นเกมเยอะกว่าตอนซ้อมแข่ง เพราะสตรีมทุกวัน”

“เมื่อก่อนผมไม่มั่นใจภาพรวมทีมมากกว่าทำให้ตัดสินใจยังไม่ลงแข่ง” Cherie เผยอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เขาตัดสินใจคืนสังเวียนในนามผู้เล่น eArena “แต่ตอนนี้ที่ตัดสินใจร่วมทีม eArena เพราะผมคิดว่า ถ้าเราทำดี เดี๋ยวคนอื่นก็เห็นเองต่อให้ภาพรวมมันจะดีหรือไม่ดีก็ตาม”

“เป้าหมายของผมในตอนนี้กับทีม คือผมไม่ได้คิดอะไรเยอะเหมือนเมื่อก่อน แค่อยากจะทำเต็มที่มันจะไปได้เท่าไหนก็เท่านั้น แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมากับ RoV ผมคิดว่า จะนำตรงนั้นออกมาช่วยทีมให้เต็มที่”

“แต่อย่างที่ผมเกริ่นไปตั้งแต่แรก คนเรามันเก่งเกมไม่เหมือนกัน พรแสวงดีแค่ไหน แต่มาเจอพรสวรรค์มันก็สู้ไม่ได้ โลกมันก็เป็นแบบนี่แหละ ไม่ใช่แค่เกม มันเป็นทุกวงการ”

ขณะเดียวกันการกลับมาหนนี้ของ Cherie สร้างเสียงฮือฮาให้กับแฟนๆ ยิ่งกว่านั้นเขายังมาพร้อมกับตำแหน่งการเล่นใหม่ในบทบาทซัพพอร์ต หลังก่อนหน้านี้เล่น ออฟเลน และ แคร์รี มาตลอด

“จริงๆผมเล่นตัวแทงค์มาตลอดไม่เคยคิดเล่นตัวบาง ผมไม่ชอบแบก เป็นคนชอบชงรับดาเมจเองเพื่อให้คนอื่นเท่ มันสบายกว่า แต่จุดเปลี่ยนคือตอนอยู่ Bacon มีคนเล่นแครี่ไม่ได้ผมเลยไปเล่น แต่เอาจริงๆผมเล่นได้หมด ถ้าได้ฝึก แต่ถ้าชอบ ผมชอบเล่นตำแหน่งที่ไม่ต้องไปแบก”

Cherie ยอมรับว่า การกลับมาของเขาที่เริ่มต้นช้า ส่งผลกระทบต่อการเล่นของทีม เนื่องจากมีเวลาเตรียมตัวน้อย และทำให้การแข่งขันช่วงแรกไม่เป็นไปตามที่หวัง อย่างไรก็ตามเขายังมั่นใจว่า eArena จะมีผลงานที่ดีในอนาคต

“จริงๆถ้าเกิดผมมาตั้งแต่ต้นซีซั่นแล้วได้มีเวลาปรับจูนทีมด้วยกัน ผมมองว่า ทีมเรายังไงก็สู้ไหว แต่ถ้าตอนนี้ให้พูดเต็มปาก เราคงยังไม่ไหว เราจูนกันมาแค่ 2 อาทิตย์ ก็ยังไม่ลงตัวเท่าที่ควร แต่ทีมอื่นจูนกันมาตั้งแต่ต้นซีซั่นมันก็เป็นเรื่องของความเข้าใจกัน”

“อย่างสมมติผมเดินเลี้ยวซ้าย แล้วเพื่อนเลี้ยวซ้ายด้วย นี่คือออร์โต มันจะไวกว่า แต่ถ้าผมเลี้ยวซ้าย แต่ผมต้องมาบอกเพื่อนให้เลี้ยวตามจังหวะมันก็จะช้าไปแล้ว  ยิ่งเป็นเกมมือถือก็ยิ่งเร็ว มันเป็นความเข้าใจกัน”

“ทีมเราในตอนนี้ยังไม่เหมือนทีม eArena ชุดเก่า จริงๆผมมองว่า การเปลี่ยนแปลงในทีมควรเปลี่ยนแค่ 1-2 คน เพื่อให้ยังมีรากฐานอยู่ แต่ตอนนี้เราเหมือนทีมใหม่ที่สร้างขึ้นมา 5 คนที่มีไม่เคยเล่นด้วยกัน แต่ละคนมีความคิดของตัวเอง”

“แต่ผมมองว่า ถ้ามีเวลาสองเดือนขึ้นไป เราทำได้แน่นอน…” Cherie กล่าวอย่างมั่นใจกับการเดินทางครั้งใหม่ที่ eArena


Cherie ในวันนี้

“ที่ผ่านมาผมได้เรียนรู้แล้วว่าต้องใช้ชีวิตอย่างไร” Cherie กล่าวถึงวิถีทางที่ตั้งใจเดินต่อไปในวงการอีสปอร์ต หลังผ่านมรสุมชีวิตตลอด 3-4 ปี ที่ผ่านมา

“ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าภาพลักษณ์ต้องเป็นอย่างไร ควรเอาใจเขามาใส่ใจเราประมาณไหน ควรปกป้องประมาณไหน คนรู้จักกันมา 8-9 ปี อยู่ๆก็ไม่คุยกันก็มีงงๆ เรียกว่า หลังจากนี้ผมน่าจะเดินให้ถูกทาง และระมัดระวังมากขึ้น”

“ที่ผ่านมาถือเป็นประสบการณ์ครั้งใหญ่มากๆของผมที่ไม่ใช่แค่เรื่องของเกม แต่มันคือทุกเรื่อง แต่ทั้งหมดมันทำให้ผมโตขึ้นเยอะมากแบบก้าวกระโดด เพราะกว่าจะผ่านจุดนั้นมาได้มันก็เหนื่อย

“ถ้าเปรียบฮีโร่ใน RoV ให้มันเล่าเรื่องชีวิตผมได้ ผมคงเป็น Taara เพราะมันมีช่วงที่แข็งแกร่ง แต่พอถึงเวลาบอบบางมันไม่มีใครสนใจเหมือนตอนที่มันแข็งแกร่ง”

“ทุกคนคิดว่า มันจะแข็งแกร่งไปตลอด แต่ในความเป็นจริง มันไม่ได้แข็งแกร่งตลอดเหมือนที่ทุกคนคิด…..” Cherie ปิดท้าย

อ่านเพิ่ม: KirosZ : นักพากย์เกมและผู้อยู่ทุกช่วงเวลาการเติบโตของอีสปอร์ต